โรคภูมิแพ้ เมืองหลวงควันและฝุ่นมากมายอย่างใคร ๆ บอกกัน เห็นท่าว่าจะจริง เพราะมลพิษทางอากาศนั้นช่างย่ำแย่เสียเหลือเกิน ส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจของเราผิดปกติตามไปด้วย แต่ไม่ใช่แค่เพียงผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่เท่านั้นที่จะพบเจอคนเป็นภูมิแพ้อากาศ
เพราะหากนำข้อมูลจากการวิจัยที่สถาบันคิงส์ คอลเลจ ของมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษแล้ว พบว่า บนโลกใบนี้ มีคนเป็นภูมิแพ้ทั้งอากาศและอาหารรวมกันถึง 40% เลยทีเดียว
โรคภูมิแพ้ การดูแลและคอยสังเกตสุขภาพตัวเองก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
โรคภูมิแพ้ เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันทางร่างกาย โดยร่างกายมักจะตอบสนองต่อสิ่งที่ทำให้เกิดภูมิแพ้อย่างฉับพลัน แต่ไม่ถึงอันตรายต่อชีวิต ซึ่งอาการที่คนส่วนใหญ่มักมีตอนเกิดภูมิแพ้ก็คือ ไอ จาม คัดจมูก คันตามจุดต่าง ๆ เช่น รอบดวงตา ผิวหนัง หรือเกิดการระคายเคืองตามร่างกาย เป็นต้น ในรายที่อาการภูมิแพ้ค่อนข้างหนัก อาจทำให้เกิดอาหารหอบหืดหรือแน่หน้าอกได้
ทั้งนี้ การแพทย์สมัยใหม่ ได้มีการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังได้ถึง 40 ชนิด ด้วยวิธีการสะกิด เพื่อให้ทราบว่า อาการภูมิแพ้ของเรานั้นเกิดจากอะไรได้บ้าง โดยการทดสอบนี้สามารถทดสอบได้ทั้งภูมิแพ้จากอากาศและอาหาร เรียกได้ว่า ตรวจหนึ่งครั้งได้ครบจบในทีเดียว เมื่อทำการทดสอบแล้ว เราก็จะสามารถหลีกเลี่ยงหรือรักษาโรคภูมิแพ้ได้ตรงจุดมากขึ้น
ต้องบอกว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่สำหรับคนเป็นภูมิแพ้ เพราะจากการวิจัย พบว่า โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่ไม่สามารถหายขาดได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะภูมิแพ้สามารถรักษาและดูแลให้ทุเลาลงจนใช้ชีวิตตามปกติเหมือนคนทั่ว ๆ ไปได้ ไม่ว่าจะ รักษาด้วยการทานยา การฉีดวัคซีน หรือการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ แต่ที่สำคัญที่สุด คงจะหนีไม่พ้นการออกกำลัง เพราะหากเราดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอแล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะภูมิแพ้หรือโรคใด ๆ ก็ไม่สามารถเข้ามากล้ำกลายเราได้แน่นอน
ทั้งนี้ ถึงแม้อาการของภูมิแพ้จะไม่ได้ร้ายแรงเหมือนโรคอื่น ๆ แต่คนเป็นภูมิแพ้ ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยหรือมองข้ามอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ไป เพราะหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีแล้ว ก็อาจจะลุกลามไปสู่อาการที่รุนแรงอย่างอื่นได้ อย่างเช่นคนที่เป็นภูมิแพ้อากาศ หากไม่ใส่ใจกับอาการเหล่านี้ อยู่ในที่ ๆ มีสารก่อภูมิแพ้เยอะ และปล่อยให้มีอาการจาม หรือน้ำมูกไหลอยู่บ่อย ๆ นอกจากจะเกิดความน่ารำคาญใจแล้ว ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า เนื้อเยื่อบุโพรงจมูกจะบวมจนปิดทางเดินหายใจ ส่งผลให้หมอต้องทำการผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมของเยื่อบุจมูก เลยทีเดียว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง การดูแลและคอยสังเกตสุขภาพตัวเองก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด