โรคไข้เลือดออก เกิดจากไวรัสเดงกี โดยเจ้าตัวยุงลายเป็นในส่วนของพาหะของการนำโรคนั้นมาสู่คน ซึ่งมักจะพบในบริเวณของเขตร้อนและพื้นที่ที่มีการระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปีมากที่สุด เนื่องจากว่าพื้นที่ใดมีน้ำขังเป็นจำนวนมาก
ก็จะถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมยุงลายเลยก็ว่าได้ ที่จะทำให้มีโอกาสเป็นโรคนี้มากที่สุด ถึงแม้ว่าอาการจะมีทั้งไม่รุนแรง หรือรุนแรงไปจนถึงเสียชีวิต ก็ควรเดินทางมาตรวจที่โรงพยาบาล เพื่อที่จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และไม่เกิดการเสียชีวิตเกิดขึ้น
โรคไข้เลือดออก สาเหตุของการติดต่อโรคนี้
โรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดจากยุงลายเพศเมียเป็นพาหะนำโรค ซึ่งยุงลายเพศเมียได้มีการออกหากินในช่วงเวลากลางวัน และดูดเลือดคนเป็นอาหาร ซึ่งเมื่อยุงลายเพศเมียได้ดูดเลือดจากผู้ป่วย ที่มีอาการของโรคนี้อยู่ ซึ่งจะเป็นการดูดเลือดจากผู้ที่มีเชื้อไวรัสในกระแสเลือดนั่นเอง โดยเชื้อจะเข้าไปฝังในตัวยุง เมื่อมีไวรัสจำนวนมากขึ้น และเมื่อยุงลายเพศเมีย ได้ไปกัดคนอื่นเชื่อไวรัสก็จะเข้าสู่กระแสเลือดในทันที ของผู้ที่โดนกัดนั่นเอง
และก่อให้เกิดการติดเชื้อ และป่วยตามหลัง หลังจากการถูกกัดประมาณ 3 ถึง 15 วันนั่นเอง โดยอาการของ โรคไข้เลือดออก จะมีอาการไม่รุนแรงมากนัก บางรายอาจจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกระดูก และมีผื่นขึ้นที่ผิวหนัง หากมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ในทันที
โรคไข้เลือดออก มีวิธีการป้องกันได้อย่างไรบ้าง
โรคไข้เลือดออก ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้จะยังไม่มียาต้านไวรัส ที่มีประสิทธิภาพที่ดีพอ แต่ก็ยังมีวิธีการรักษาตามอาการซึ่งจะมีการประคับประคองอากาศได้ดี หรือวิถีชาวบ้านเลยก็คือใส่ทรายอะเบท ตามที่น้ำขังเอาไว้ที่บ้าน ซึ่งจะเป็นทรายที่ช่วยกำจัดลูกน้ำยุงลาย ถือได้ว่าเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดที่คุณจะทำได้แล้ว หรือจะเป็นการนอนในมุ้ง ฉีดยากันยุง ปิดภาชนะน้ำขัง
หรือวิธีสุดท้ายจะเป็นการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก ก็สามารถทำได้เลย ซึ่งวิธีเหล่านี้จะเป็นวิธีป้องกัน โรคไข้เลือดออก ได้ดีมากที่สุด ซึ่งถ้าหากคุณทำตามวิธีนี้ รับรองได้ว่าคุณจะไม่มีอาการติดโรคนี้อย่างแน่นอน และทุกวันนี้คุณจะไม่ต้องกังวลในเรื่องของ โรคไข้เลือดออก เพราะถ้าคุณมีวิธีป้องกันที่ถูกต้อง รับรองได้ว่ายุงลายแม้แต่ตัวเดีย วก็จะใกล้คุณไม่ได้เลย และอย่าพลาด sct168 คาสิโนออนไลน์ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้รางวัลมากมาย