ปวดตา ไม่ใช่ปัญหาเล่น ๆ

 ปวดตา เป็นอาการเรื่องปกติที่พบได้ในคนทั่วไป ไม่ค่อยมีอาการร้ายแรง ซึ่งส่วนใหญ่อาการปวดตาจะหายไปเองได้โดยไม่ต้องใช้ยาหรือการรักษา แต่ถ้าปวดมาก ๆ หรือมีอาการเจ็บตาก็ควรไปพบแพทย์ทันที

สาเหตุอะไรทำให้เกิดอาการ ปวดตา

ปวดตา

1.วัตถุแปลกปลอม สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการปวดตาคือมีอะไรเข้าตา ไม่ว่าจะเป็นขนตา สิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอาง การมีสิ่งแปลกปลอมในดวงตา อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ตาแดง น้ำตาไหลและเจ็บปวดได้

2.ตาแดง เยื่อบุตา คือเนื้อเยื่อที่อยู่ด้านหน้าของดวงตาและด้านล่างของเปลือกตา ซึ่งอาจติดเชื้อและอักเสบได้บ่อยครั้ง แม้ว่าอาการปวดมักไม่รุนแรง แต่การอักเสบทำให้เกิดอาการคันตาแดงและมีน้ำมูกไหล และเกิดโรคตาแดง

3.การระคายเคืองจากคอนแทคเลนส์ ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ข้ามคืน หรือไม่ได้ฆ่าเชื้อเลนส์อย่างถูกต้อง จะเสี่ยงต่ออาการปวดตาที่เกิดจากการระคายเคืองหรือการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

4.กระจกตาถลอก กระจกตาซึ่งเป็นพื้นผิวใสที่ปกคลุมดวงตามีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เมื่อคุณมีรอยถลอกที่กระจกตาคุณจะรู้สึกราวกับว่ามีอะไรเข้าตา การรักษา เช่นการล้างด้วยน้ำ จะไม่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดหากคุณมีรอยถลอกที่กระจกตา

5.ดวงตาบาดเจ็บ ดวงตาบาดอาจเจ็บจากแผลไหม้ สารเคมีและแสงแฟลชที่เข้าตา ทำให้เกิดอาการปวดอย่างมาก แผลไหม้เหล่านี้มักเป็นผลมาจากการสัมผัสสารระคายเคือง เช่นสารฟอกขาว หรือแหล่งกำเนิดแสงที่รุนแรงเช่น ดวงอาทิตย์หรือวัสดุที่ใช้ในการเชื่อมอาร์ก

6.เปลือกตาอักเสบ เปลือกตาอักเสบ  เกิดขึ้นเมื่อต่อมน้ำมันที่ขอบเปลือกตาติดเชื้อหรืออักเสบ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเจ็บปวด

7.ตากุ้งยิง ตากุ้งยิง เกิดจากการติดเชื้อ และสร้างทำให้เกิดการนูนขึ้นที่เปลือกตา  อาจเจ็บปวดมาก บริเวณรอบ ๆ

ปวดตา

อาการปวดตาขึ้นรุนแรงจะรู้ได้อย่างไร

หากคุณเริ่มสูญเสียการมองเห็น จากอาการปวดตา นี่อาจเป็นสัญญาณของสถานการณ์รุนแรง ที่ต้องไปพบแพทย์ทันที

1.ปวดตาอย่างรุนแรง

2.อาการปวดตาที่เกิดจากการบาดเจ็บหรือการสัมผัสกับสารเคมีหรือแสง

3.อาการปวดตาที่มาพร้อมกับปวดท้องและอาเจียน

4.ปวดอย่างรุนแรงจนไม่สามารถสัมผัสดวงตาได้

5.การเปลี่ยนแปลงการมองเห็นอย่างกะทันหันและรวดเร็ว 

ปวดตา

อาการปวดตารักษาอย่างไร

1.การดูแลที่บ้าน วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาดวงตาของคุณ คือกาได้พักผ่อนจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์ ดังนั้นแพทย์จึงแนะนำให้คุณพักสายตาเป็นเวลาหนึ่งวันหรือมากกว่านั้น

2.แว่นตา หากคุณใส่คอนแทคเลนส์บ่อย ๆ ให้เวลากระจกตาได้พักบ้างด้วยการสวมแว่นตาแทน

3.ประคบอุ่น แพทย์อาจสั่งให้ผู้ที่เป็นโรคเปลือกตาอักเสบหรือตุ้งยิง ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเช็ดตา วิธีนี้จะช่วยล้างต่อมน้ำมันหรือรูขุมขนที่อุดตัน

4.ล้างตาด้วยน้ำ หากมีสิ่งแปลกปลอมหรือสารเคมีเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำหรือน้ำเกลือเพื่อล้างสิ่งที่ระคายเคืองออก

5.ยาปฏิชีวนะ อาจใช้ยาหยอดต้านเชื้อแบคทีเรียและยาปฏิชีวนะในช่องปากเพื่อรักษาการติดเชื้อในตา ที่ทำให้เกิดอาการปวดรวมทั้งเยื่อบุตาอักเสบและกระจกตาถลอก

6.ยาแก้แพ้ ยาหยอดตาและยารับประทานสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากภูมิแพ้ในดวงตาได้

7.ยาหยอดตา ผู้ที่เป็นโรคต้อหินอาจใช้ยาหยอดตาเพื่อลดการสร้างความดันในดวงตา

8.คอร์ติโคสเตียรอยด์ สำหรับการติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้น เช่น โรคประสาทอักเสบที่เส้นประสาทตาและโรคเยื่อหุ้มปอดอักเสบ (ม่านตาอักเสบ) แพทย์ของคุณอาจให้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ในการรักษา

9.ศัลยกรรม บางครั้งจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากสิ่งแปลกปลอมหรือการเผาไหม้ในตา

ติดตามข้อมูลสาระดีๆด้านสุขภาพได้ที่นี่